[รีวิวเกม] Atelier Marie Remake

Atelier Marie Remake

การรีเมคหรือรีเมคเกม RPG เก่า ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะเกมของญี่ปุ่น เนื่องจากในยุค 90 มีตำนาน RPG มากมายที่เชื่อว่าแฟน ๆ อยากกลับไปเล่นอีกครั้งด้วยกราฟิกใหม่ ทำให้ผู้สร้างค่อย ๆ ขุดของเก่าแล้วนำกลับมาขายอีกครั้ง เกมบางเกมก็ดีพอๆ กับเกมต้นฉบับ แต่บางเกมก็สร้างมาเพื่อตามเทรนด์เท่านั้น

ล่าสุด Atelier Marie Remake The Alchemist of Saarbourg เกม RPG สุดคลาสสิกที่กลายเป็นตำนานบน PlayStation 1 ได้เปิดตัวบนพีซีและ Sega Saturn แล้ว นอกจากนี้ยังได้รับการเผยแพร่อีกครั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์ยอดนิยม บน PS2 เคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งและภาคนี้ถือเป็นภาคแรกของซีรีย์เกมทำยาในตำนานที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินมา การรีมาสเตอร์ใหม่นี้สามารถเล่นได้บน Nintendo Switch, PS4, PS5 และ PC

เหมือนกับเกมรีเมคของเกม Atelier Marie: The Alchemist of Salburg ดั้งเดิม โดยคุณจะได้เล่นเป็น Marie นักเรียนในโรงเรียนเล่นแร่แปรธาตุชื่อดังแห่ง Salburg จนเธออาจจะเรียนไม่จบก็เป็นที่มาของการผจญภัยเพื่อทำภารกิจสุดท้ายให้สำเร็จเพื่อสำเร็จการศึกษาภายในเวลาที่กำหนด

Atelier Marie Remake กราฟิกปรับใหญ่จนเหมือนเกมใหม่

อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่การรีมาสเตอร์จะเปลี่ยนกราฟิกของเกมโดยสิ้นเชิง แต่คราวนี้ “Marie Studio Remastered Edition” กำลังจะมา โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมันมาก เพราะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่อย่างสมบูรณ์แต่ยังคงไม่ละทิ้งแนวทางเดิม มันเหมือนกับการนำของเก่ามาสร้างในโลกใหม่ กราฟิกมีความสวยงาม และแม้จะพิจารณาว่านี่เป็นเกมที่วางจำหน่ายในปี 2023 มันยังคงมีความสวยงามคล้ายกับเกมอื่น ๆ แม้ว่าจะเล่นบน Nintendo Switch ก็ตาม

Atelier Marie Remake ฉันคิดว่าผู้สร้างทำการบ้านเสร็จแล้ว เพราะภาพระดับนี้ทำให้แฟนเกมรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นซีรีส์ Potions มาก่อนสามารถสนุกไปกับมันได้โดยไม่รู้สึกว่าล้าสมัย แฟนเก่ายังคงชอบเพราะมันมีกลิ่นอายความคลาสสิก ส่วนเพลงประกอบก็ถูกสร้างใหม่โดยอิงจากงานต้นฉบับ สิ่งที่ยอดเยี่ยมก็คือได้รับการขนานนาม และข่าวดีก็คือมีการขนานนามเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย

เกมเพลย์ RPG ที่เข้าใจง่าย

กล่าวโดยสรุป Atelier Mary Remastered เป็นเกมที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน แม้ว่าระบบอาจซับซ้อนในบางจุด แต่ก็มีระบบการสอนแบบลงมือปฏิบัติจริงซึ่งหัวใจหลักของมันคือเกม RPG ที่มีฉากการสำรวจเพื่อทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ รวมถึงการค้นหาส่วนผสมทางยาหรือการสร้างไอเท็มใหม่ตามภารกิจที่กำหนดในเกมโดยเฉพาะในเมือง Saarburg ซึ่งมีกิจกรรมให้ทำมากมาย

และข่าวดีก็คือหากเราไม่อยากสำรวจก็สามารถคลิกบนแผนที่และเลือกฉากที่เราต้องการไปได้เลย ถือว่าสะดวกและเข้ากับยุคสมัยเพราะคนยุคนี้ไม่ชอบรออะไรนานและในส่วนของตัวเมืองก็จะมีบทสนทนากับตัวละคร NPC ให้จบเรื่อง เช่น การรับภารกิจหรือการเรียนรู้การผสมผสาน ใหม่จากชาวเมือง ยาเสพติด และสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครในเมือง

ในส่วนของระบบอัพเกรดตัวละครก็เข้าใจง่ายเหมือนกับเกม RPG ทั่วๆ ไป เช่น การจัดเตรียมอาวุธหรือชุดเกราะ ใครเคยเล่นเกมประเภทนี้จะเข้าใจทันที ส่วนที่สำคัญที่สุดคือระบบสำหรับเตรียมยาหรือผสมสิ่งของ นอกจากจะมีระบบเมนูที่เข้าใจง่ายและมีภาพประกอบให้ปฏิบัติตามแล้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคำแนะนำที่บอกคุณว่าต้องทำอะไร ทำให้ง่ายสำหรับมือใหม่ในการเล่น แฟน ๆ ที่เล่นเกมแล้วก็สามารถข้ามคำแนะนำได้เช่นกัน

สำรวจโลกกว้างหาของปรุงยาสร้างของ

นอกจากในเมืองแล้ว ฉากหลักยังมีโลกอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีฉากเดินบนแผนที่อีกด้วย เนื่องจากตัวเกมใช้ระบบแผนที่โลกจึงมีสถานที่บนแผนที่ให้เลือก และเมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะเป็นฉากสไตล์ RPG มุมมองด้านบนก็เหมือนกับฉากในเมือง ผู้เล่นต้องหาวัตถุดิบมาผสมไอเท็มใหม่ อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบที่สามารถจัดเก็บได้นั้นมีจำกัด ดังนั้น ผู้เล่นจึงต้องวางแผนก่อนค้นหาวัตถุดิบ

ความซับซ้อนของพื้นหลังอาจไม่ซับซ้อนเท่ากับในเกมสมัยใหม่ แต่มีวัตถุที่ซ่อนอยู่มากมายบวกกับภูมิประเทศที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นป่าทึบหรือดันเจี้ยนลึกลับ มีสัตว์ประหลาดดุร้ายมากมายรอเราอยู่ ซึ่งผู้เล่นจะได้เห็นในฉากแทนการเผชิญหน้าแบบสุ่ม นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีระบบเวลาอีกด้วย กิจกรรมที่สำเร็จจะเปลี่ยนวัน เช่น การเข้าสู่ดันเจี้ยนจะเป็นวันใหม่ ดังนั้นผู้เล่นจะต้องวางแผนเกมให้ดีก่อนจะออกไปนอกเมือง

ส่วนระบบการต่อสู้ก็ใช้รูปแบบ Turn-based RPG ตัวละครจะโจมตีหลังจากป้อนคำสั่งแล้วภาคนี้อาจจะไม่น่าตื่นเต้นมากนัก เพราะมันไม่แตกต่างหรือใหม่ แต่แนวทางของการรีมาสเตอร์ไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่น แต่ข้อดีคือความลื่นของเกมสูงมากเพราะฉากต่อสู้โหลดเร็วมากทำให้เกมลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีระบบการต่อสู้อัตโนมัติให้เลือกอีกด้วย

Atelier Marie Remastered: The Alchemist of Saarburg กลับมาแล้ว เกม RPG สุดคลาสสิกจากยุค 90 พร้อมกราฟิกใหม่ล่าสุด หากคุณเคยเล่นต้นฉบับมาก่อนก็คุ้มค่าที่จะเล่น เพราะมันสนุกไม่แพ้กันยกเว้นกราฟิกที่สวยงามและความลื่นไหลของเกม แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนเกม แต่ก็ยังเล่นได้สนุกเพราะถูกปรับแต่งให้เร็วขึ้นและทันสมัยยิ่งขึ้น

บทความแนะนำ

Convergence

Final Fantasy XVI